10 อันดับแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอลในปี 2020

อัพเดทข่าวสารและสาระความรู้ทางด้านไอทีทุกวันที่นี่ที่เดียว

10 อันดับแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอลในปี 2020

March 5, 2020 Post 0

ในช่วงทศวรรตที่ผ่านมา โลกเราได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น ทำให้การดำรงชีวิตของเราสะดวกขึ้น ดั้งนั้นเราจึงควรศึกษาและติดตามในเรื่องแนวโน้มการแปลงด้านดิจิตอลที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Edge Compute, IoT และ AI โดยในปี 2020 นั้นจะเริ่มแตกต่างออกไปจากปีก่อนมาก ในขณะที่เทคโนโลยีหลักต่างๆ ได้มีการกล่าวถึงว่าจะยังคงเป็นรากฐานไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบดิจิตอลแบบโดยรวม ซึ่งในปี 2020 ที่จะถูกกำหนดโดยเทคโนโลยีหน้าใหม่ ท่ามกลางเทคโนโลยี 5G, AI และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือ 10 เทคโนโลยีที่เชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงโลกดิจิตอลที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2020

            1.เทคโนโลยี 5G ปี 2019 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทดลองใช้เทคโนโลยี 5G ในประเทศมหาอำนาจด้านเทคโนโลยี และเศรษฐษกิจของโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน, สหรัฐ, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น รวมถึงบางประเทศในแถบยุโรป กับแบรนด์ใหญ่ต่างๆทางด้านโทรคมนาคมเช่น Qualcomm, AT&T, Verizon, Nokia, Ericsson และ Huawei  แต่ที่น่าจับตามองคือ ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป เทคโนโลยี “5G” จะแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะขยายไปสู่การใช้งานในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป  และตอนนี้และผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ Android ที่ดีที่สุดในโลกได้มีการปล่อยโทรศัพท์ที่รองรับเทคโนโลยี 5G แล้ว

  1. eSIM จะมีการใช้อย่างแพร่หลาย ในปี 2020 เทคโนโลยี eSIM จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันโดยมาในรูปแบบของของใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี IoT และ 5G ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า eSIM จะมีการใช้อย่างแพร่หลายในปี 2020 จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคโดยสิ้นเชิง ทำให้ได้รับความสะดวกสบายและสามารถจัดเก็บข้อมูลการใช้งานจริง
  2. นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น กระแสประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมจะเป็นมากกว่าการสร้างจิตสำนึก เพราะเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในการจัดการสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น IoT, Big Data และ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อลดการใช้ปริมาณทรัพยากร ถือเป็นส่วนหนึ่งของการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  3. พัฒนาเทคโนโลยีด้วยเทคโนโลยี จากความต้องการและคาดหวังประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นของ AI แต่ผู้พัฒนา AI มี ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น ในปี 2020 จะได้เห็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม Machine learning ที่สามารถสร้าง AI ได้ตามความต้องการ ทำให้องค์กรธุรกิจหรือบุคคลทั่วไปสามารถพัฒนา AI ใช้งานได้เอง เรียกได้ว่าเป็นการนำเทคโนโลยีสร้างเทคโนโลยีต่อไปอีกทอดหนึ่ง
  4. ยุคที่ร่างกายจะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตกว่าที่เคย ในปี 2020 ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยี IoT มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพและการแพทย์ โดยจะถูกผนวกเข้าไปอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายได้อย่างเรียลไทม์เช่น ความดันเลือด ปริมาณออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ ตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาระดับอินซูลินในเลือด หลังจากที่เทคโนโลยี IoT ส่วนมากจะได้รับการพูดถึงในวงจำกัดอย่าง อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ภาคการผลิต และเกษตรกรรม
  5. Dirty Data รูปแบบใหม่ของข่าวปลอม ไม่เพียง fake news หรือข่าวปลอมที่เป็นภัยบนโลกออนไลน์ แต่ยังรวมไปถึง Dirty Data ซึ่งคือสิ่งที่ถือว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และจะปะปนรวมอยู่ในฐานข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้การประมวลผลข้อมูลผิดพลาดตั้งแต่แรกเริ่ม ส่งผลต่อการประมวลผลข้อมูลต่างๆ ผ่าน AI หรือ machine learning ทำให้การทำงานผิดพลาด

           

7.ความน่าเชื่อถือ คือสิ่งที่ถูกยกระดับความสำคัญ: ความน่าเชื่อถือ เรียกได้ว่าเป็นตัวกลางของการใช้บริการทางออนไลน์ แต่จากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะมีข่าวคราวที่บริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียนำข้อมูลของผู้ใช้บริการออกสู่ระบบไปยัง third party เช่น บริษัทโฆษณา ทำให้ความเชื่อใจของผู้ใช้บริการต่อผู้ให้บริการลดลง

  1. ปีที่สงครามของ Streaming TVจะปะทุขึ้น หลังจากที่ Netflix ประสบความสำเร็จและได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบความบันเทิงของผู้บริโภคไปโดยสิ้นเชิง ผ่านรูปแบบ Streamingทำให้ผู้ผลิตคอนเทนต์และเจ้าของแพลตฟอร์มรายอื่นอย่าง AppleTV+ และ Disney+ ขอเข้ามาร่วมหารส่วนแบ่งในตลาดในธุรกิจ สตรีมมิ่ง นี้มากขึ้น ดังนั้น ในปี 2020 วงการสตรีมมิ่งจะระอุ ดุเดือด มากขึ้น เพราะจะมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
  2. กฏใหม่ควบคุม Big Tech ปี 2020 Big Tech จะถูกควบคุมด้วยกฎเกณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้น ประเด็นการจัดเก็บภาษี ข้อมูลส่วนบุคคล ความมั่นคง ตลอดจนข้อห้ามที่เกี่ยวกับการโฆษณาเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง หลังจากเหตุการณ์ต่างๆในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนในสังคมตั้งคำถามถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากบริการของบิ๊กเทคเหล่านี้
  3. กิจกรรมของคนทั่วโลก 40% จะถูกติดตามได้จาก IoB IoB หรือ Internet of Behavior เป็นโครงข่ายที่เกิดขึ้นจากตัวบุคคลในโลกดิจิทัลซึ่งปัจจุบันเราก็พอเห็นภาพแล้วว่าข้อมูลจากอุปกรณ์ดิจิทัลหรือ IoT สามารถบ่งบอกถึงพฤติกรรมของเราได้มากแค่ไหนดูได้จากโฆษนาต่างๆ แอพชอปปิ้งทั้งหลาย ทั้งนี้ข้อมูลพฤติกรรมเหล่านั้นของเราอาจถูกใช้เพื่อวัดคุณค่าในการให้บริการ เช่น เบี้ยประกันหรือการรับบริการจากประกันสังคม เป็นต้น แต่มีประเด็นคือจริยธรรมในการใช้ข้อมูลจะเป็นอย่างไรต่อไป?